A Market Misadventure: Durian or Jackfruit?
FluentFiction - Thai
A Market Misadventure: Durian or Jackfruit?
วันหนึ่งในตลาดนัดจตุจักรที่คึกคัก, สาวน้อยชื่อสิริเดินทางมาที่กรุงเทพฯ พร้อมกับดวงตาที่เป็นประกาย ด้วยความตื่นเต้นและรอยยิ้มที่เต็มหน้า
One day in the bustling Chatuchak Weekend Market, a young woman named Sirirat traveled to Bangkok with sparkling eyes and a full smile.
เธอได้ยินเรื่องราวมากมายจากเพื่อนๆ เกี่ยวกับตลาดนัดจตุจักรที่มีสินค้าน่าสนใจ
She had heard many stories from friends about the interesting products at the market.
เธอตัดสินใจออกเดินทางไปตลาดกับเพื่อนอีกสองคนคือสมชายและกัญญา
She decided to go with two friends, Somchai and Kannika.
แสงแดดส่องสว่างกระทบเต้นท์ต่างๆ และผู้คนพลุกพล่านไปตามทางเดิน
The bright sunlight shone on the various stalls, and people bustled along the walkways.
สมชายและกัญญาเดินนำหน้าไปข้างหน้า ส่วนสิริก็ชื่นชมสินค้าที่หลากหลายตามแผงขายของ
Somchai and Kannika led the way, while Sirirat admired the diverse products on display.
สักพัก สิริตื่นเต้นเมื่อเห็นผลไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกนำมาวางขายอยู่ที่แผงหนึ่ง ด้วยความเข้าใจผิด เธอคิดว่านั่นคือ "ขนุน" ผลไม้ที่เธอชื่นชอบ
After a while, Sirirat got excited when she saw some large fruits displayed at one stall, misunderstanding them to be her favorite fruit, jackfruit.
สิริรีบเข้าไปพูดคุยกับแม่ค้า "สวัสดีค่ะ ขนุนนี่กิโลละเท่าไหร่คะ?"
Sirirat confidently approached the vendor and said, "Hello, how much is the jackfruit per kilogram?"
แม่ค้ายิ้มแล้วตอบ "ตัวนี้ไม่ใช่ขนุนนะคะ แต่เป็นทุเรียนค่ะ กิโลละสองร้อยบาท แต่ถ้าคุณซื้อสองกิโลขึ้นไป จะลดให้เป็นกิโลละหนึ่งร้อยเจ็ดสิบบาทค่ะ"
The vendor smiled and responded, "This isn't jackfruit, but it's durian. It's 200 baht per kilogram, but if you buy two kilograms or more, I will reduce it to 170 baht per kilogram."
โดยไม่รู้ตัวว่าเข้าใจผิด สิริต่อราคาอย่างมีทักษะ "หนึ่งร้อยห้าสิบกิโลได้ไหมคะ?"
Unaware of her misunderstanding, Sirirat skillfully negotiated, "Can I get 150 baht per kilogram for one and a half kilograms?"
หลังจากคุยกันไปมาแม่ค้าก็ยอมรับข้อเสนอของสิริในที่สุด
After some back and forth, the vendor finally accepted Sirirat's offer.
ด้วยความพึงพอใจ สิริจ่ายเงินแล้วหอบทุเรียนใหญ่กลับมาที่เพื่อน
Pleased with herself, Sirirat paid and carried the large durian back to her friends.
สมชายและกัญญาทั้งสองตื่นตะลึง "นั่นทุเรียนไม่ใช่หรือ?" สมชายถามด้วยความประหลาดใจ
Both Somchai and Kannika were surprised and asked, "Isn't that durian, not jackfruit?"
สิริที่ตอนนี้รู้ตัวว่าตัวเองเข้าใจผิดถึงกลับพูดไม่ออก "เอ้อ... ฉันคิดว่ามันคือขนุน..."
Realizing her mistake, Sirirat struggled to explain, "Um... I thought it was jackfruit."
กัญญาหัวเราะกลบเกลื่อน "ไม่เป็นไรนะ ทุเรียนก็อร่อยไม่แพ้กัน แล้ววันนี้เรามีเรื่องจะหัวเราะเล่าให้เพื่อนๆ ฟังแล้วล่ะ"
Kannika laughed and said, "It's okay, durian is delicious too. And we have a funny story to tell our friends today."
ที่ประทับใจที่สุดคือทัศนคติที่ดีของสิริ
What was most impressive was Sirirat's positive attitude.
เธอไม่โมโหแม้จะหนักใจกับทุเรียนที่ไม่คาดคิด ท้ายที่สุดทั้งสามคนตัดสินใจนั่งพักร้อนใต้ร่มไม้และแบ่งปันทุเรียนที่สิริซื้อมา
Despite feeling a bit disappointed over the unexpected purchase, in the end, all three friends decided to take a break under the shade of a tree and share the durian that Sirirat bought.
สิริยิ้มและบอก "วันนี้ฉันได้เรียนรู้บทเรียนอย่างหนึ่ง นั่นก็คือทุเรียนกับขนุนมันต่างกันจริงๆ แต่ทั้งสองอย่างล้วนอร่อย"
Sirirat smiled and said, "Today, I learned a valuable lesson – durian and jackfruit are really different, but both are delicious."
แม้จะเริ่มต้นด้วยความผิดพลาด แต่สุดท้ายสิริก็ได้เพลิดเพลินกับวันใหม่ มิตรภาพใหม่ และตอนรับรสชาติใหม่ที่เธอไม่เคยลิ้มรส
Though it started with a misunderstanding, in the end, Sirirat enjoyed the new day, new friendships, and the taste of something she had never liked before.
พวกเขาจำได้ว่าจะนำเรื่องราวตลกนี้กลับไปเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง และรู้ว่าความทรงจำที่ได้จากสถานที่แห่งนี้จะติดตัวพวกเขาไปตลอด.
They remembered to take this funny story back and share it with their friends, knowing that the memories from this place would stay with them forever.