A Journey of Hope: Siblings’ Quest in a Post-Apocalyptic World
FluentFiction - Thai
A Journey of Hope: Siblings’ Quest in a Post-Apocalyptic World
กลางฤดูร้อนในซีกโลกเหนือ ฉันยืนอยู่ท่ามกลางซากอาคารที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองที่เจริญ งดงาม
In the midst of summer in the Northern Hemisphere, I stood among the ruins of what was once a thriving, beautiful city.
แต่ตอนนี้มันกลายเป็นเพียงเถ้าถ่านและซากปรักหักพังของอดีต
Now, it was nothing more than ashes and remnants of the past.
นิ้วมือเป็นๆของอานันน้องชายฉันแตะไหล่ฉันเบาๆ
Anan, my younger brother, touched my shoulder lightly with his trembling fingers.
"พิม พวกเราจะไปไหนต่อ?"
"Pim, where do we go next?"
ฉันหันมาและมองหน้าเขา จับมือเขาไปแน่นๆ
I turned and looked into his eyes, gripping his hand tightly.
"เราจะไปที่สถานที่รัฐบาลเก่า
"We’re going to the old government place.
มันอาจจะมีของ และคำตอบที่เราตามหา"
There might be supplies and the answers we’re looking for."
อานันพยักหน้า แต่ฉันเห็นประกายความสงสัยในดวงตาของเขา
Anan nodded, but I could see doubt flickering in his eyes.
"แต่พี่ พนักงานจะช่วยไหม?
"But will the staff help us?
แล้วถ้าพวกคนร้ายอยู่ที่นั่นล่ะ?"
And what if there are bad guys there?"
ฉันกัดฟัน พยายามไม่ให้กลัวปรากฏบนใบหน้า
I clenched my teeth, trying to keep fear from showing on my face.
"เราจะดูแลกันแบบที่พ่อแม่สั่งสอนไว้ จำได้ไหม?
"We will take care of each other just like Mom and Dad taught us, remember?
พวกเขาเชื่อในเรา พวกเราก็ต้องเชื่อกันเอง"
They believed in us, so we have to believe in each other,"
ฉันพูดให้อานันมั่นใจ มองไปที่ถนนเต็มไปด้วยต้นไม้และหญ้าที่ขึ้นมากลืนหายทุกอย่าง
I said reassuringly to Anan, looking down the road overgrown with trees and grass.
สายลมพัดเบาๆ ฉันรับรู้ได้ถึงความร้อนของฤดูร้อน แต่ใจฉันยังเย็นสบายเพราะมีอานันอยู่ข้างๆ
The wind blew softly; I could feel the heat of summer, but my heart remained calm because Anan was by my side.
ฉันนึกถึงเมื่อก่อนนี้ที่บ้านเราเคยมีชีวิตธรรมดาสามัญ
I recalled how our home once had a simple, ordinary life.
แต่บัดนี้โลกของเราพังไปหมดแล้ว
But now, our world was destroyed.
อานันไม่ค่อยพูดถึงอดีตมากนัก แต่ฉันรู้ว่าในใจเขายังคิดถึงวันเก่าๆเสมอ
Anan didn’t talk much about the past, but I knew that in his heart, he always thought about the old days.
ในสายตาเขาเต็มไปด้วยความปวดร้าวและอยากรู้อยากเห็น
His eyes were full of pain and curiosity.
ทางที่เรามุ่งไปนั้นยาวและเต็มไปด้วยอุปสรรค
The path we set out on was long and filled with obstacles.
เราพบกับกลุ่มคนร้ายที่คุมพื้นที่อยู่ และมันไม่ง่ายเลย
We encountered a group of thugs controlling the area, and it wasn’t easy.
ระหว่างการต่อสู้นั้น ฉันเห็นอานันใช้นาฬิกาเก่าของพ่อทำล่อผู้ร้ายให้ผิดพลาด
During the fight, I saw Anan use our father’s old watch to trick the attackers into making mistakes.
เราปีนระเบียงตึกเก่าๆ หนีผู้ร้ายที่ตามมาด้วยรับซื้อของเก่า
We climbed the balconies of old buildings, escaping those chasing us, who dealt in scavenged goods.
ในที่สุด เราก็พบบังเก็บของที่ซ่อนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่
Finally, we found a hidden stash underneath a large tree.
มีกล่องอาหารแห้งและน้ำสะอาดอยู่ข้างใน
Inside were boxes of dried food and clean water.
และยังมีแผนที่ใบใหญ่ที่บอกเส้นทางไปยังสถานที่ข้อมูล
There was also a large map showing the route to a place with crucial information.
ฉันรู้ว่ามันไม่ใช่จุดหมายสุดท้าย แต่เป็นจุดเริ่มต้นใหม่
I knew it wasn’t the final destination but a new beginning.
ฉันยิ้มและกอดอานัน
I smiled and hugged Anan.
"เราเจอแล้ว น้องชายคนเก่งของพี่"
"We found it, my clever little brother."
อานันยิ้มกลับ
Anan smiled back.
"พี่หมวกหัวใจ"
"And you too, big sis."
ตั้งแต่วันนั้นฉันเรียนรู้ที่จะเชื่อในสติปัญญาของอานันมากขึ้น
From that day on, I learned to trust Anan’s intelligence more.
ในขณะที่อานันก็เรียนรู้หลักการที่ควรจะระมัดระวังเมื่ออยู่ในโลกที่ไม่ปลอดภัยเหมือนนี้
Meanwhile, Anan learned the principles of caution necessary in this unsafe world.
พวกเราสองคนก้าวเดินต่อไปพร้อมกับความมั่นใจในอนาคตใหม่และความหวังที่ยังเหลืออยู่ในใจของทั้งสอง
Together, we continued forward with newfound confidence, carrying the hope that still lingered within both our hearts.