FluentFiction - Thai

From Solitude to Friendship: How Exams Bonded Two Students

FluentFiction - Thai

15m 50sAugust 12, 2024

From Solitude to Friendship: How Exams Bonded Two Students

1x
0:000:00
View Mode:
  • ในช่วงหน้าร้อนที่กำลังมาถึง วิทยาลัยดูคึกคักมาก

    As the upcoming summer approaches, the college buzzes with activity.

  • นักศึกษาทุกคนต่างยุ่งกับการเตรียมตัวสอบปลายภาค

    Every student is busy preparing for the final exams.

  • ห้องอ่านหนังสือร่วมในหอพักมีคนเข้าออกไม่ขาดสาย

    The shared reading room in the dormitory sees a constant influx and departure of people.

  • ป้ายบอกคะแนนสอบวางกระจายอยู่ทั่วห้อง

    Exam scoreboards are scattered throughout the room.

  • โต๊ะยาวและเก้าอี้นุ่มทำให้ที่นี่เป็นจุดรวมตัวของนักศึกษาหลายคน

    The long tables and soft chairs make this place a favorite gathering spot for many students.

  • นรินทร์ นักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ เป็นคนเงียบขรึมและไม่ชอบแสดงออกทางอารมณ์

    Narin, an engineering student, is quiet and not very expressive.

  • การพูดคุยกับคนอื่นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขา

    Communication is not easy for him.

  • นรินทร์มักจะนั่งอยู่คนเดียวในห้องอ่านหนังสือ พยายามทบทวนบทเรียนอย่างหนัก

    He often sits alone in the reading room, reviewing his lessons intensely.

  • เขาต้องการจะผ่านการสอบให้ได้ และหวังในใจว่าอาจจะเจอเพื่อนที่เข้าใจเขาบ้าง

    He wants to pass the exams and secretly hopes to find a friend who understands him.

  • แพรว นักศึกษาวรรณกรรม เป็นคนเปิดเผยและชอบช่วยเหลือผู้คน

    Phraew, a literature student, is outgoing and loves helping others.

  • แต่เธอเองก็ต้องรับมือกับแรงกดดันทางการเรียนเช่นกัน

    However, she too has to deal with the pressures of her studies.

  • แพรวเห็นนรินทร์นั่งคนเดียวตราบนานเหมือนนั่งอยู่กับโลกของตนเอง

    Phraew often sees Narin sitting alone, immersed in his own world.

  • เธอรู้สึกเห็นใจและอยากจะช่วย แต่เวลาของเธอก็จำกัด

    She feels sympathy for him and wants to help, but her time is also limited.

  • "วันนี้จะเจอเขาอีกไหมนะ?" แพรวคิดในใจเมื่อเดินเข้าห้องอ่านหนังสือ

    "Will I see him again today?" Phraew wondered as she walked into the reading room.

  • กลิ่นลิ่นอ่อนๆของหนังสือและเสียงกระซิบกระซาบของนักศึกษาทำให้ห้องนี้มีบรรยากาศที่น่าอบอุ่น

    The faint scent of books and the whispering of students create a cozy atmosphere.

  • เธอเห็นนรินทร์นั่งอยู่โต๊ะหลังสุด ขีดขวางข้อความบนกระดาษเส้นยุ่ง เธอตัดสินใจเดินเข้าไปหา

    She saw Narin sitting at the last table, scribbling on a messy sheet of paper. She decided to approach him.

  • "นรินทร์ สวัสดีค่ะ" แพรวพูดพร้อมส่งยิ้ม

    "Narin, hello!" Phraew said with a smile.

  • นรินทร์เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย "ต้องการความช่วยเหลือไหมคะ?"

    Narin looked up slightly. "Do you need any help?"

  • นรินทร์นิ่งไปสักพัก เขายังคงรู้สึกอายและกลัวการปฏิเสธ แต่ในที่สุดเขาก็พูดว่า "ขอบคุณครับ แพรว ผมคิดว่าอาจจะต้องการช่วยเรื่องโจทย์คณิตศาสตร์พวกนี้"

    Narin paused for a moment. He still felt shy and afraid of rejection, but finally said, "Thank you, Phraew. I think I might need help with these math problems."

  • จากนั้น ทั้งคู่เริ่มทำงานร่วมกัน

    From then on, the two began working together.

  • แพรวช่วยนรินทร์แก้โจทย์และอธิบายสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ ในขณะที่นรินทร์ก็ช่วยแพรวในการแก้ปัญหาทางเทคนิคที่เธอเจอในการเรียบเรียงงานวรรณกรรม

    Phraew helped Narin solve problems and explain what he did not understand, while Narin assisted Phraew with technical issues she encountered in her literary work.

  • ทั้งสองคนนัดกันมาอ่านหนังสือทุกๆเย็น เพื่อเตรียมตัวสอบไปด้วยกัน

    They scheduled to read together every evening to prepare for exams side by side.

  • คืนหนึ่ง นรินทร์นั่งอยู่คนเดียวในห้องอ่านหนังสือ จมกับความคิดของตนเอง

    One night, Narin was sitting alone in the reading room, lost in his thoughts.

  • แพรวามาถึงและนั่งลงข้างๆ

    Phraew arrived and sat next to him.

  • "นรินทร์ ฉันอยากจะพูดกับคุณค่ะ คุณทำได้ดีมากๆเลย ฉันเห็นความพยายามของคุณ"

    "Narin, I want to say that you are doing wonderfully. I can see your effort."

  • นรินทร์ยิ้มเล็กๆ ครั้งแรกที่เขารู้สึกว่ายิ้มของเขามีความสุขจริงๆ

    Narin smiled slightly, for the first time feeling that his smile was truly happy.

  • "ขอบคุณนะ แพรว คุณช่วยผมมากจริงๆ"

    "Thank you, Phraew. You've really helped me a lot."

  • ทั้งคู่ต่างเรียนรู้และเติบโตขึ้นจากการทำงานร่วมกัน

    Both of them learned and grew from working together.

  • นรินทร์เริ่มเปิดใจและกล้าแสดงอารมณ์ออกมา ขณะที่แพรวก็เรียนรู้ที่จะจัดสรรเวลาให้กับตัวเองบ้าง

    Narin started to open up and express his emotions, while Phraew learned to manage her time for herself.

  • ทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนไม่เพียงแค่เรื่องการเรียน แต่ยังสามารถพึ่งพากันและกันในชีวิตประจำวัน

    They became friends not only in their studies but also in their daily lives, supporting each other in every way.

  • ในที่สุด การสอบปลายภาคก็ผ่านไป นรินทร์และแพรวก็ยังคงนัดเจอกัน พูดคุยเรื่องต่างๆ และสนับสนุนกันและกันในทุกทาง

    Eventually, the final exams passed, but Narin and Phraew continued to meet, talk about various things, and support each other in every aspect.

  • หน้าร้อนนี้ ไม่เพียงผ่านไปกับหนังสือและการสอบ แต่ยังผ่านไปกับมิตรภาพที่งดงามและยาวนาน

    This summer passed not just with books and exams, but with a beautiful and lasting friendship.